มีการคิดช่างประดิดประดอยของคนไทยได้เป็นอย่างดี และยังได้แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันลึกซึ้งระหว่างคนไทยกับอาชีพเกษตรกรรมอีกด้วย
รถอีแต๋นมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ เช่น รถทัวร์ลูกทุ่ง รถไทยแลนด์ รถเกษตรกร เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี พ.ศ. ๒๕๑๔ โดยชาวนาผู้หนึ่งในเขตอำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ เป็นผู้สร้างขึ้น ด้วยการดัดแปลงสร้างรถ ๔ ล้อขนาดเล็กขึ้นคันหนึ่งโดยใช้ชิ้นส่วนที่ใช้แล้วจากรถยนต์ทั่วไป ใช้ระบบกลไกง่าย ๆ ขับเคลื่อนตัวรถ โดยใช้สายพานต่อพ่วงจากเครื่องยนต์ต้นกำลังขนาดเล็ก
อีแต๋น มาจากคำว่า "สะแหล๋นแต๋น" หรือพูดภาษาที่ชาวบ้าน เข้าใจง่าย ๆ คือ "แรด" และด้วยความที่เป็นรถวิ่งช้า วิ่งแบบแต๋น ๆ คำว่าอีแต๋นจึงเหมาะกับรถประเภทนี้ (รถอีแต๋นจริงๆ แล้วมาจากเสียงของเครื่องยนต์ทีเป็นเครื่องสูบเดียว ที่เสียงเครื่องจะดัง แด้นๆ ๆๆๆ ชาวบ้านจึงเรียกรถอีแต๋น ไม่ได้มาจากคำ "สะแหล๋นแด๋น" ซึ่งไม่มีในภาษาชาวบ้านในชนบทเป็นภาษาสมัยใหม่ และไม่ได้เกี่ยวกับรถอีแต๋นเลย)
รถที่ประกอบขึ้นมา โดยใช้อะไหล่รถยนต์ (ใหม่) และ/หรือ อะไหล่รถยนต์มือสอง หรือเรียกอีกอย่างว่า “อะไหล่เชียงกง” นำมาประกอบขึ้นเป็นรถอีแต๋น ซึ่งอะไหล่เชียงกงที่มาจากรถยนต์ในประเทศญี่ปุ่น
เหตุที่ทำให้ชาวนานิรนามผู้นี้ประดิษฐ์คิดค้นรถอีแต๋น ก็เพราะในท้องที่อำเภอวิเชียรบุรีแม้ว่าจะประกอบเกษตรกรรมได้ดีพอสมควร แต่ก็ต้องประสบปัญหาเรื่องวัชพืชซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วภายหลังการเก็บเกี่ยว จึงสร้างรถที่สามารถนำไปวิ่งในทุ่งนาที่มีวัชพืชขึ้นอยู่มาก ๆ ได้ และสามารถปราบวัชพืชได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ส่วนประโยชน์อื่น ๆ ก็คือใช้บรรทุกสิ่งของ ฉุดลากเทลเลอร์ จนในที่สุดได้มีการพัฒนาจนเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายทั่วประเทศไทย
ความสามารถของรถอีแต๋นนั้นมากมายสารพัดนึกสารพัดประโยชน์ใช้สอย สามารถนำรถมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้หลายรูปแบบอย่างเช่น ฤดูเก็บเกี่ยวก็นำรถมาขนพืชผลทางการเกษตร
ความสามารถของรถอีแต๋นนั้นมากมายสารพัดนึกสารพัดประโยชน์ใช้สอย สามารถนำรถมาปรับใช้ให้เข้ากับชีวิตประจำวันได้หลายรูปแบบอย่างเช่น ฤดูเก็บเกี่ยวก็นำรถมาขนพืชผลทางการเกษตร
พอหมดฤดูเก็บเกี่ยวก็ใช้ขนเครื่องไฟในงานบุญพิธีต่างๆที่จัดขึ้นทุกปีหลังฤดูเก็บเกี่ยว (ตอนเด็กๆผมชอบมากเวลาได้ขึ้นไปนั้งบนรถอีแต๋น)
รถกระแทะ
รถกระแทะเป็นรถที่เกษตรกรไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวไร่นำรถนี้ไปประยุกต์สำหรับใช้งาน เช่น ชาวนาใช้สำหรับการขับตีดินให้เสมอก่อนหว่านข้าวหรือเรียกว่าตีเทือก หรือใช้เป็นเครื่องสูบน้ำเข้านา เข้าสวน เป็นต้น ดัดแปลงมาจากรถไถแล้วพ่วงที่นั่งสองแถวไว้ท้ายรถ
ยามเมื่อเกษตรกรว่างจากการเก็บเกี่ยวก็เลยหากีฬามาแข่งขันกัน ซึ่งรถกระแทะก็เป็นกีฬาหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันหลายภูมิภาค
รถกระแทะเป็นรถที่เกษตรกรไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวไร่นำรถนี้ไปประยุกต์สำหรับใช้งาน เช่น ชาวนาใช้สำหรับการขับตีดินให้เสมอก่อนหว่านข้าวหรือเรียกว่าตีเทือก หรือใช้เป็นเครื่องสูบน้ำเข้านา เข้าสวน เป็นต้น ดัดแปลงมาจากรถไถแล้วพ่วงที่นั่งสองแถวไว้ท้ายรถ
ยามเมื่อเกษตรกรว่างจากการเก็บเกี่ยวก็เลยหากีฬามาแข่งขันกัน ซึ่งรถกระแทะก็เป็นกีฬาหนึ่งที่ได้รับความนิยมกันหลายภูมิภาค
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น