.

ยินดีต้อนรับสู่ นานาจัง ขีดๆเขียนๆ แวะมาอ่านนานาสารพัน รวมถึงฟังเพลงเพราะๆได้คะ

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

กล้วยกับการนำมาใช้เป็นยารักษาโรค



กล้วยกับการนำมาใช้เป็นยารักษาโรค
กล้วย (Banana) ที่นิยมรับประทานกันในบ้านเรานั้นมีอยู่หลากหลายสานพันธุ์ เช่น กล้วยหอมกล้วยน้ำว้า กล้วยไข่ กล้วยหักมุม เป็นต้น แต่สำหรับต่างชาติแล้วกล้วยที่นิยมมากที่สุดคงหนีไม่พ้นกล้วยหอม เนื่องจากกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์ ถ้าพูดถึงเรื่องประโยชน์แล้วมีงานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุชัดเจนว่าการรับประทานกล้วยแค่ 2 ลูกจะช่วยเพิ่มพลังงานในร่างกายได้เทียบเท่ากับการออกกำลังกายถึง 90 นาทีเลยทีเดียว! เพราะกล้วยอุดมไปด้วยน้ำตาลจากธรรมชาติรวมถึง 3 ชนิดเลยทีเดียวนั่นก็คือ ซูโครส กลูโคส และฟรุคโทส ซึ่งช่วยเพิ่มพลังงานให้แก่ร่างกายนั่นเอง
นอกจากนี้แล้วในกล้วยยังอุดมไปด้วยเส้นใยและกากอาหาร และยังวิตามินและแร่ธาตุนา ๆชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุโพแทสเซียม ธาตุแมกนีเซียม คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และ วิตามินซี เป็นต้น

1. โรคโลหิตจาง
ในกล้วยมีธาตุเหล็กสูงจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นการผลิตฮีโมโกลบินในเลือด และจะช่วยในกรณีที่มีสภาวะขาดกำลัง หรือภาวะโลหิตจาง
2. โรคความดันโลหิตสูง
กล้วย ช่วยรักษาความดันโลหิตสูง ให้นำเปลือกกล้วยหอมสดมาต้มน้ำ แล้วกรองเอาแต่น้ำไปดื่ม จะช่วยลดความดันโลหิตได้ หรือแม้แต่การรับประทานผลกล้วยสุกเป็นประจำก็ช่วยป้องกันรักษาโรคความดันเลือดสูงได้เช่นกัน กล้วยมีธาตุโปรแตสเซียมสูงสุด แต่มีปริมาณเกลือต่ำทำให้เป็นอาหารที่สมบูรณ์แบบที่สุดที่จะช่วย ความดันโลหิตมาก
3. ช่วยเพิ่มพลังให้แก่สมองของคุณ เพราะมีสารที่ช่วยทำให้มีเกิดสมาธิและมีการตื่นตัวตลอดเวลา
4. โรคท้องผูก
ปริมาณเส้นใยและกากอาหารที่มีอยู่ในกล้วยช่วยให้การขับถ่ายเป็นปกติและยังช่วยแก้ ปัญหาโรคท้องผูกโดยไม่ต้องกินยาถ่ายเลย
5. โรคความซึมเศร้า
จากการสำรวจเร็วๆ นี้ในจำนวนผู้ที่มีความทุกข์เกิดจากความซึมเศร้าหลายคนจะมีความรู้สึกที่ดีขึ้นมากหลังการกินกล้วยเพราะมีโปรตีนชนิดที่เรียกว่า try potophan เมื่อสารนี้เข้าไปในร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็น serotonin เป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นตัวผ่อนคลายปรับปรุงอารมณ์ให้ดีขึ้นได้คือทำให้เรารู้สึกมีความสุขเพิ่มขึ้นนั่นเอง
6. อาการเมาค้าง
วิธีที่เร็วที่สุดที่จะแก้อาการเมาค้าง คือการดื่มกล้วยปั่นกับนมและน้ำผึ้ง กล้วยจะทำให้ กระเพาะของเราสงบลงส่วนน้ำผึ้งจะเป็นตัวช่วยหนุนเสริมปริมาณน้ำตาลในเส้นเลือดที่หมดไปในขณะที่นมก็ช่วยปรับระดับของเหลวในร่างกายของเรา
7. อาการเสียดท้อง
กล้วยมีสารลดกรดตามธรรมชาติที่มีผลต่อร่างกายของเราถ้ามีปัญหาเกี่ยวกับอาการเสียดท้อง ลองกินกล้วยสักผลคุณจะรู้สึกผ่อนคลายจากอาการเสียดท้องได้
8. ความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า
การกินกล้วยเป็นอาหารว่างระหว่างมื้ออาหารจะรักษาระดับน้ำตาลในเส้นเลือดให้คงที่เพื่อหลีกเลี่ยงความรู้สึกไม่สบายในตอนเช้า
9. ยุงกัด
ก่อนใช้ครีมทาแก้ยุงกัด ลองใช้ด้านในของเปลือกกล้วยทาบริเวณที่ถูกยุงกัดมีหลายคนพบอย่างมหัศจรรย์ว่าเปลือกกล้วยสามารถแก้เม็ดผื่นคันที่เกิดจากยุงกัดได้
10. กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ 
เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือกช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร
11. โรคลำไส้เป็นแผล
กล้วยเป็นอาหารที่แพทย์ใช้ควบคุม เพื่อต้านทานการเกิดโรคลำไส้เป็นแผลเพราะ เนื้อของกล้วยมีความอ่อนนิ่มพอดีเป็นผลไม้ชนิดเดียวที่ทานได้ง่ายๆ ไม่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องโรคลำไส้เรื้อรังและกล้วยยังมีสภาพเป็นกลางไม่เป็นกรด ทำให้ลดการระคายเคืองและยังไปเคลือบผนังลำไส้และกระเพาะอาหารด้วย
12. การควบคุมอุณหภูมิของร่างกาย
ในวัฒนธรรมของหลายแห่งเห็นว่ากล้วยคือผลไม้ที่สามารถทำให้อุณหภูมิเย็นลงได้ทั้งทางร่างกายและจิตใจโดยเฉพาะอุณหภูมิของอารมณ์ของคนที่เป็นแม่ที่ชอบคาดหวัง
ตัวอย่างในประเทศไทยจะให้ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์รับประทานกล้วยทุกวันเพื่อให้แน่ใจว่าทารกที่เกิดมาจะมีอุณหภูมิเย็น
13. ช่วยลดอาการหงุดหงิดของผู้หญิงในช่วงประจำเดือนมา และอาการหงุดหงิดยามเช้า
14. การสูบบุรี่
กล้วยสามารถช่วยคนที่กำลังพยายามเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากในกล้วยมีปริมาณของวิตามินซี เอ บี6 และบี 12 ที่สูงมากและยังมีโปรแตสเซียมกับแมกนีเซียมที่ช่วยทำให้ร่างกายฟื้นคืนตัวได้เร็วอันเป็นผลจากการลดเลิกนิโคตินนั่นเอง
15. ความเครียด
โปรแตสเซียมเป็นสารอาหารสำคัญที่ช่วยให้การเต้นของหัวใจเป็นปกติการส่งออกซิเจนไปยังสมองและปรับระดับน้ำในร่างกายเวลาเกิดอารมณ์เครียดอัตรา metabolic ในร่างกายของเราจะขึ้นสูงและทำให้ระดับโปรแตสเซียมในร่างกายของเราลดลงแต่โปรแตสเซียมที่มีอยู่สูงมากในกล้วย จะช่วยให้เกิดความสมดุล
16. เส้นเลือดฝอยแตก
จากการวิจัยที่ลงในวารสาร “The New England Journal of Medicine” การกินกล้วยเป็นประจำสามารถลดอันตรายที่เกิดกับเส้นโลหิตแตกได้ถึง 40%
17. โรคหูด
การรักษาหูดด้วยวิธีทางเลือกแบบธรรมชาติโดยการใช้เปลือกของกล้วยวางปิดลงไปบนหูดแล้วใช้แผ่นปิดแผลหรือเทปติดไว้ให้ด้านสีเหลืองของเปลือกกล้วยออกด้านนอกก็จะสามารถรักษาโรคหูดให้หายได้
18.กล้วยช่วยระงับกลิ่นปาก 
สำหรับผู้ที่มีกลิ่นปากแรง โดยที่ไม่ได้มีปัญหามาจากฟันผุ สามารถกำจัดกลิ่นได้ โดยรับประทานกล้วยสุกในตอนเช้าสัก 6-7 ลูก แล้วค่อยแปรงฟัน จะเป็นกล้วยชนิดใดก็ได้ ขอให้เป็นกล้วยสุกที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ ไม่ว่าจะต้ม ทอด ปิ้ง เมื่อกินติดต่อกันสัก 7 วัน ก็จะเริ่มเห็นผล
19.เปลือกกล้วยด้านในช่วยฆ่าเชื้อ ที่เกิดจากบาดแผลได้เหมือนกัน แต่ยังไงก็ตามเมื่อแปะที่บาดแผลแล้วก็ควรจะเปลี่ยนเปลือกใหม่ทุก ๆ 2 ชั่วโมงด้วย
20.กล้วยก็สามารถนำมาทำเป็นมาส์กหน้าได้ โดยจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ผิว ช่วยลดความหยาบกร้านบนผิว วิธีง่าย ๆ เพียงแค่ใช้กล้วยสุกหนึ่งผลมาบดให้ละเอียด แล้วเติมน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ จากนั้นคลุกให้เข้ากัน แล้วนำมาพอกหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 นาทีแล้วล้างออก
21.กล้วยอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆที่สำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย เช่น ธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม แมกนีเซียม คาโบไฮเดรต โปรตีน วิตามินเอ วิตามินบี6 วิตามินบี12 และวิตามินซี
22. ก้านใบตอง ช่วยลดอาการบวมของฝี แต่ก่อนใช้ต้องตำให้แหลกเสียก่อน
23.กล้วยก็มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระเหมือนกันนะ ที่ช่วยในการชะลอความแก่ตัวของร่างกายนั่นเอง
24. ช่วยลดอัตราการเกิดตะคริวบริเวณมือ เท้า และน่องได้
25.ใบอ่อนของกล้วย หากนำไปอังไฟให้นิ่ม ก็ใช้ประคบแก้อาหารเคล็ดขัดยอกได้
25.ผลดิบ
ผลดิบนำมาบดให้ละเอียดทั้งลูกผสมกับน้ำสะอาด รับประทานเพื่อแก้อาการท้องเสีย
26.หัวปลี นำมารับประทานเพื่อช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด และบำรุงและขับน้ำนมสำหรับมารดาหลังคลอดบุตร
27.กล้วยมีส่วนช่วยในการลดความอ้วนได้ เพราะช่วยปรับระดับน้ำตาลในเลือกช่วยให้ลดอาการอยากกินของจุกจิกลงได้พอสมควร
28.สำหรับผู้ที่มีอาการนอนไม่หลับ กล้วยคือคำตออบสำหรับคุณ
ชาวอินเดียใช้ ดอกกล้วย ต้มและนำน้ำที่ได้จากการต้มมากินแก้เบาหวาน วิธีต้มง่ายๆก็คือ นำดอกกล้วย 1 กำมือ ล้างน้ำให้สะอาด ต้มกับน้ำ 3 แก้ว ให้เดือดนาน 20 นาที จากนั้นให้ดื่มน้ำต้มดอกกล้วยครั้งละ 1 แก้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น จะช่วยทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุล นอก จากนี้ในอินเดียยังมีการใช้ขี้เถ้าจากใบและต้นกล้วยมาต้มกินวันละ 1 ช้อนชา หลังอาหารเช้า-เย็น เป็นยาขับพยาธิ
ชาวจีนใช้ดอกกล้วยแห้งบดเป็นผง นำไปผสมกับน้ำ ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย กินครั้งละ 1-2 ช้อนชา วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น เป็นยาช่วยรักษาโรคหัวใจ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น